วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Medieval Universities

มหาวิทยาลัยในยุคกลาง Medieval University
ความหมายของ Medieval University คือความเป็นมหาวิทยาลัยในยุคกลาง ในต้นสมัยกลาง การศึกษาได้มีการนำเสนอหลักให้มีการจัดการเรียนการสอนโดยเริ่มจากพระสงฆ์และฆารวาส ก่อนศตวรรษที่ 5 -6 การศึกษาได้มีวิวัฒนการมาจากยุคคลาสสิก ทั้งนี้การศึกษาในยุคกลางได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนหลักในโบสถ์และโรงเรียน monastry หรือในบ้านส่วนตัวของคนรวย ส่วนหนึ่งของการเกิดของโบสถ์และโรงเรียน monastry นั้นเกี่ยวกับการปฏิรูปการเรียนการสอน โดยมีการจัดการศึกษาหลักสูตรทั่วไปเกี่ยวกับศาสนา โดยมีนักวิชาการที่ต้องการจะเจาะลึกศึกษา ข้อความศักดิ์สิทธิ์จากบรรพบุรุษของคริสตจักรที่เรียกว่าอรรถกถา (patristic) แต่ขึ้นอยู่กับสถานที่ต่างภูมิภาคและองค์ประกอบของครูหลักสูตรของโรงเรียนโบสถ์ของพวกเขาจะแตกต่างกันอย่างกว้างขวาง ในการศึกษานอกจากจะเรียนเรื่องของศาสนาแล้วยังรวมถึงการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์อีกด้วย โดยปกติธรรมชาติของการจัดการเรียนการสอนในยุคกลาง โรงเรียนอื่นๆ ดำเนินการในทิศทางที่แตกต่างกันเช่น โรงเรียนในเมืองออเลียน ที่จัดการศึกษาแบบคลาสสิกโดยเรียนเฉพาะในวิชาคณิตศาสตร์และเพลง
สถาบันแรกของการศึกษาในตอนต้นของยุคกลางในยุโรปตะวันออก โดยมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 2 แต่เดิมในช่วงเวลาเดียวกันในเมืองเอเธนส์ การกำเนิดขึ้นของมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับยุคกลางที่ถูกพระสันตะปาปา เขาออกพระราชกฤษฎีกาสันตะปาปาในปี1079 การสร้างโบสถ์ของโรงเรียนที่จะต้องมีผู้รับผิดชอบนั่นคือพระสงฆ์นั่นเอง พระราชกฤษฎีกานี้ในที่สุดนำไปเผยแพร่ในศูนย์การศึกษาที่พัฒนาในมหาวิทยาลัยในช่วงยุโรปสมัยกลาง ในประเทศอิตาลี มหาวิทยาลัยโบโลญญา ได้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1088 ขณะที่มหาวิทยาลัยปารีส ภายใต้การสนับสนุนของ Robert Sorbon เป็นวิทยาลัยเกี่ยวกับธรรมชาติ หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงและแบ่งออกเป็น การก่อตั้งมหาวิทยาลัยในยุคกลางในขณะนั้นประเทศอังกฤษได้มีมหาวิทยาลัยที่เริ่มก่อตั้ง เช่น มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด (Oxford)ก่อตั้งขึ้นระหว่างปี ค।ศ। 1167-1185 และในปี ค।ศ। 1209 โรงเรียนแรกของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ก่อตั้ง บางวิทยาลัยก่อนที่จะมีการเกิดรวม Balliol College ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1260 โดย John Balliol ในมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ก่อตั้งโดย Mary de เซนต์ Pol ภรรยาของเอิร์ลแห่ง Pembroke ในปี ค.ศ. 1347 และ Corpus Christi College ในปี ค.ศ. 1352 ในศตวรรษถัดไปวิทยาลัยเช่น King's College (ปี ค.ศ. 1441) และ Queen's College (ปี ค.ศ. 1448) ได้เพิ่ม Cambridge University
พัฒนาการของมหาวิทยาลัยในตะวันตก ในราวคริสตศตวรรษที่ 12-13 อันเป็นช่วงระยะเวลาที่คริสตศาสนากำลังรุ่งโรจน์ในยุคกลางนั้นได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นหลายแห่ง เช่น โบโลญ่า ซาเลอร์โม เนเปิลส์ปาดัว ในอิตาลี่ ที่ปารีส ฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยเหล่านี้อยู่บนพื้นฐานการจัดการศึกษาของคริสต์ศาสนา คือ ส่วนใหญ่ได้รับการปรับปรุงมาจากโรงเรียนมหาวิหาร (Episcopal School) อันเป็นสถานศึกษาของพระและฆารวาสที่สนใจ การศึกษาสมัยนั้นจะอยู่ในความดูแลของศาสนจักร โดยมีบุคลากรในคริสตศาสนา เช่น พระ บาทหลวง ที่ใช้อุดมการณ์ทางคริสตศาสนาเป็นหลักการในการจัดการศึกษาอย่างเช่นการจัดการศึกษาเบื้องต้นเพื่อสอนให้คนเป็นพลเมืองดี ก็จะเน้นเรื่องศรัทธาในพระเจ้ารวมทั้งเรื่องจริยธรรมตามหลักของคริสตศาสนา เพื่อให้สังคมอยู่เรื่องกันอย่างมีสันติสุข ส่วนการศึกษาในระดับสูงจะเน้นเรื่องเทววิทยา คือ การอภิปรายความคิดทางศาสนาขั้นลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องของปรัชญา ความเชื่อ และข้อถกเถียงต่าง ๆ ของคริสตศาสนานอกจากนี้ยังมีการสอนด้านกฏหมาย อักษรศาสตร์และการแพทย์ วิชาเหล่านี้แม้จะเป็นพื้นฐานของการใช้เหตุผล แต่การเข้าถึงความเจริญต่าง ๆ ยังถูกครอบงำ โดยความคิดทางศาสนจักรมีข้อสังเกตว่าการศึกษาระดับสูงในสมัยโบราณนั้นจะเน้นที่ผู้ชาย ผู้หญิงแทบจะไม่มีบทบาทหรือส่วนในการเกี่ยวข้องในตอนปลายยุคกลางมีมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นหลายแห่ง โดยมีกำเนิดในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไปจะมีสถานที่ที่เกิดชุมชนหรือสถาบันที่เรียกว่า มหาวิทยาลัยอยู่ 2 แหล่งด้วยกัน คือ บริเวณทางใต้ของยุโรปที่ประเทศอิตาลี่ และทางเหนือของยุโรป คือ ฝรั่งเศส ทั้งนี้มหาวิทยาลัยในฝรั่งเศษซึ่งมีที่มาจากการรวมตัวของมหาวิหารของคริสตศาสนา
เมื่อประมาณคริสตศตวรรษที่ 12-13 ลักษณะการรวมตัวแบบนี้จะขยายสู่เมืองอื่น ๆ ในฝรั่งเศสและประเทศอื่น ๆ ในยุโรป เช่น ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ มหาวิทยาลัยไฮเดลเบอร์กในเยอรมัน แม้ในระยะแรกการศึกษาในมหาวิทยาลัยจะเน้นแต่พัฒนาการที่สำคัญในด้านการศึกษาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 14เป็นต้นมาคือการศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ในด้านต่างๆ อันเป็นผลมาจากขบวนการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ คือนอกจากการทบทวนอารยธรรมกรีกและโรมันแล้วยังมีการรับอิทธิพลอารยธรรมอิสลามจากโลกอาหรับเข้ามา เช่น การใช้เลขอารบิคที่เราใช้ทุกวันนี้แทนเลขโรมัน ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้นเป็นตัวอย่างการจัดการศึกษาในยุคกลางเป็นต้นมา
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า การดำเนินการจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ในยุคกลางเป็นต้นมามีความสำคัญอย่างยิ่ง ถือได้ว่าเป็นการวิวัฒนาการจากอดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากมหาวิทยาลัยในยุคกลางที่ได้ให้ข้อมูลในเบื้องต้นแล้วนั้น ยังมีข้อมูลที่หลากหลายมากกว่านี้ เป็นต้นว่า มหาวิทยาลัยในยุคกลางของเอเชีย Medieval university (Asia) ซึ่งจะนำเสนอเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป
ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/Medieval_university แปลและเรียบเรียงโดย ประภาพร บุญปลอด

1 ความคิดเห็น:

  1. อยากให้ปรับปรุงข้อเขียนเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในยุคกลาง (Medieval University) ใหม่ หากเราได้ทำความเข้าใจดีพอ จะทำให้เราเข้าใจปรัชญาการอุดมศึกษาในยุคใหม่ที่เริ่มแตกต่างจากทางตะวันออกที่มีมาก่อนหน้านี้นับเป็นพันปี

    มหาวิทยาลัยแบบ Medieval นั้นเริ่มขึ้นในที่ใดบ้าง อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี และอื่นๆ แต่ละแห่งมีประวัติความเป็นมาอย่างไร เกี่ยวข้องกับศาสนาหรือไม่ และอย่างไร

    มีแห่งใดบ้างที่ได้เริ่มต้นขึ้นในยุคกลาง และยังคงสืบทอดการเรียนการสอนกันจนปัจจุบัน

    ตอบลบ